วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Internet Marketing


 



หลายคนเกิดความเข้าใจผิดว่าเราต้องรู้จักการทำ Website ให้มันถูกต้องตามหลัก SEO ต้องมี OnPage, OffPage ที่ถูกต้อง การเขียนบทความ ต้องเขียนในภาษาที่ Google อ่านเข้าใจได้ง่ายๆ จะได้เก็บ Index และทำอันดับได้ดีๆ
จริงๆ แล้วมันก็ถูกแหละครับ แต่มันถูกแค่บางส่วนเท่านั้น การทำ Internet Marketing มันก็คือ Marketing ชนิดหนึ่ง ที่เราต้องรู้จักวิเคราะห์ SWOT Analysis, คิด Strategy ทางการตลาดต่างๆ, รู้จักการวาง Business Plan, ฯลฯ ไม่ใช่เพียงแค่การทำ SEO เท่านั้น
การทำ Internet Marketing ต้องรู้จักรากฐานที่สำคัญก็คือการทำ Marketing ครับ ไม่ใช่ SEO …
ลองคิดเล่นๆ คุณเขียนบทความที่มี Keyword ซ้ำไปซ้ำมา เพื่อให้ Google เห็นว่า บทความของฉันเนี่ยะแหละ ที่ถูกต้องตามหลักการ Index ทุกอย่าง มี Keyword Density เป้ะๆ แต่บางทีอาจจะลืมไปว่า การใช้คำซ้ำๆ เนี่ยะ ผู้อ่านอาจจะรู้สึกเบื่อ และคิดว่ามันเป็นเว็บ Spam จนปิดไปเลยก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะมีแต่ Keyword ซ้ำไปซ้ำมา จนหาสาระอะไรไม่ได้ แล้วก็ปิดไป …
หรือไม่คุณอาจต้องการทำ OffPage แบบหาลิ้งค์ดีๆ ทำ Anchor Text Link เป็น Keyword เพราะรู้ว่า Google จะให้คะแนน OffPage ที่ดี แต่ลองคิดเล่นๆ นะครับ ถ้าหากคุณไปหาลิ้งค์แบบ Comment Blog เนี่ย แล้วใช้ชื่อคน Comment ว่า HDTV Television ,,, เจ้าของบลอค หรือคนอ่านจะคิดว่าคุณเป็น Spammer รึเปล่าครับ คนบ้าอะไร ชื่อ HDTV Television ฮ่าๆ
ทุกคนอย่าลืมครับ ว่าเราทำเว็บให้คนอ่าน ไม่ใช่ให้ Google อ่าน เราต้องการให้คนอ่านข้อมูลแล้วรู้สึกพอใจ และกดเข้าไปซื้อสินค้า หรือเป็นข้อมูลตัดสินใจ ในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ใช่ทำเว็บไซต์ขึ้นมา เพื่อให้ Google มัน index และทำอันดับให้สูงๆ … แล้วไม่นานมันอาจจะร่วงหล่นหายไป … สู้ทำดีๆ อยู่นานๆ จะดีกว่านะครับ
“สุดท้ายแล้ว SEO มันก็เป็นแค่ Technique อันนึงที่ใช้บน Search Engine แค่นั้น ….”

ที่มา http://ifourth.net/internet-marketing-is-se/


อินเทอร์เน็ต 40 ปีเทียบเท่าวัยรุ่น

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 1969 ตัวอักษรสองตัวแรกคือ LO ได้ถูกพิมพ์บนคีย์บอร์ดในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลลีส (UCLA) ไปปรากฎบนหน้าจอที่สถาบันวิจัยของสแตนฟอร์ด โดยทั้งสองสถานที่มีระยะห่างกันถึง 314 ไมล์ ความจริงนักวิทยาศาสตร์พยายามจะพิมพ์คำว่า LOGIN แต่การเชื่อมต่อขาดหายไปก่อนที่จะพิมพ์ตัว G ได้สำเร็จ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นั่นถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของการส่งข้อความผ่านสายโทรศัพท์ระหว่างคอมพิวเตอร์สองเครื่อง
ในตอนแรกมันไม่ได้ถูกเรียกว่า อินเทอร์เน็ต (Internet) อย่างทุกวันนี้ โดยชื่อเรียกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี ชื่อแรกของมันคือ Arpanet (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ในกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ และมันไม่ใช่ เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web) แอพพลิเคชันอินเทอร์เน็ตที่พัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ Tim Berners-Lee ที่มีมานานกว่า 20 ปีแล้ว ส่วนอีเมล์ (email) ฉบับแรกถูกส่งหากันระหว่างคอมพิวเตอร์สองเครื่องในปี 1971
แต่สำหรับการครบรอบปีที่ 40 ของอินเทอร์เน็ตในวันที่ 29 ตุลาคม จากจุดเริ่มต้นตัวอักษรสองตัวที่ถูกพิมพ์บน "Interface Message Processor" โลกอินเทอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก พวกเรารู้จักการค้าขายบนเน็ตทีเรียกว่า อีคอมเมิร์ซที่มาพร้อมกับปุ่ม Buy It Now เข้าสู่ยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ก และ mashup application อย่าง Google Wave ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของอินเทอร์เน็ตทำให้การดำเนินชีวิตของมนุษย์ในทุกวันนี้เปลี่ยนไปอย่างน่าอัศจรรย์
ใครจะเชื่อว่า จากวันนั้นถึงวันนี้จะมีออนไลน์วิดีโอที่ชื่อว่า YouTube ที่มีวิดิโอหลายล้านคลิปดูกันจนสิ้นอายุขัยของคนๆ หนึ่งก็ไม่หมด ทั้งๆ ทีมันเกิดมาได้ไม่ถึงสามปีเลยด้วยซ้ำ อุตสาหกรรมเพลงที่ได้รับผลกระทบอย่างแรง จนถึงกับต้องเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจากแผ่นดิสก์มาสู่การดาวน์โหลด Amazon ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ที่ก่อตั้งในปี 1995 เพียงแค่ 14 ปี มันได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของการชอปปิ้งให้กับคนทั่วโลกร่วม 100 ล้านรายแล้ว อย่างไรก็ตาม Leonard Klienrock หนึ่งในทีมทีให้กำเนิดอินเทอร์เน็ตเมื่อปี 1969 กล่าวว่า "อินเทอร์เน็ตในวันนี้เปรียบเหมือนกับว่า มันได้เข้าสู่วัยรุ่นแล้ว แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง แต่หนทางของอินเทอร์เน็ตยังอีกยาวไกล ถึงบางครั้งมันอาจจะสร้างปัญหาให้บ้าง แต่อินเทอร์เน็ตก็สร้างความพอใจให้กับครอบครัว และชุมชน (หมายถึงผู้ใช้ทั่วโลก)"

ที่มา http://www.arip.co.th/news.php?id=410217

บริการต่างๆบนอินเทอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ต เป็นแหล่งที่ใช้ในการเก็บข้อมูลจำนวนที่เราสามารถค้นคว้าและรับส่งข้อมูลไปมา ระหว่างกันได้อินเทอร์เน็ตจึงมีประโยชน์สำหรับยุคสังคมและข่าวสารในปัจจุบันอย่างมากอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่ เหมือนห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ส่งข้อมูลที่เราต้องการมาให้ถึงบ้านหรือที่ทำงาน ภายในไม่กี่นาทีจากแหล่งข้อมูลทั่วโลก โดยจัดเป็นบริการในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail)หรือนิยมเรียกกันทั่วไปว่า “อีเมล์” (E-mail) เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสาร
ระหว่างกัน และกันบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
สามารถส่งข้อความ ไปยังสมาชิกที่ติดต่อด้วย โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
และสามารถแนบไฟล์ข้อมูลไปพร้อมกับจดหมายได้อีกด้วย การส่งจดหมายในลักษณะนี้
จะต้องมีที่อยู่เหมือนกับการส่งจดหมายปกติ แต่ที่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
เราเรียกว่า E-mail Address
การโอนย้ายข้อมูล (FTP : File Transfer Protocol)
เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสารข้อมูล บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อีกรูปแบบหนึ่ง
ใช้สำหรับการโอนย้ายข้อมูลระหว่างผู้ใช้โปรแกรม FTP กับ FTP Server
การโอนย้ายไฟล์จาก FTP Server มายังเครื่องของผู้ใช้ เรียกว่า ดาวน์โหลด
(Download) และการโอนย้ายไฟล์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ไปยังไปยัง
FTP Server เรียกว่า อัพโหลด


การสืบค้นข้อมูล (Search Engine) คือ
บริการที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
โดยพิมพ์ข้อความที่ต้องการสืบค้น เข้าไป
โปรแกรมจะทำการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ให้ภายในเวลาไม่กี่นาที
โปรแกรมประเภทนี้เราเรียกว่าSearch Engines
เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่สามารถจำชื่อเว็บไซด์ บางเว็บได้
ก็สามารถใช้วิธีการสืบค้นข้อมูล ในลักษณะนี้ได้ เว็บไซด์ที่ทำหน้าที่เป็น
Search Engines มีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น google.com , yahoo.com ,
sanook.com ฯลฯ เป็นต้น


การสนทนากับผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ตจะคล้ายกับการใช้โทรศัพท์แต่แตกต่างกันที่ เป็นการสื่อสาร
ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะใช้ไมโครโฟน
และลำโพงที่ต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ในการสนทนา


ที่มา http://www.thaigoodview.com/node/95623?page=0%2C1

อินเทอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร

การใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร
การใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารจัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชา 0012006 อินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน โดยมุ่งที่จะศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตและสามรถนำไปใช้ประโยชน์ในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำอินเตอร์เน็ตมาใช้ในการสื่อสารสามาถทำได้อย่างรวดเร็ง ประหยังเวลา สำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลกัน ในปัจจุปันการใช้อินเทอร์เน็ตมีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้น และใช้งานกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจำเป็นที่จะต้องติดต่อสื่อสาร อินเตอร์เน็ตจึงได้รับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการสื่อสารรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้จดหมายอินเล็กทรอนิกส์ การติดต่อด้วยเสียง ระบบ VDO Conference การใช้โทรศัพท์บนเครือข่าย

ยุคแห่งสังคมความรู้เป็นยุคที่นักการศึกษามีบทบาทต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยิ่ง อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางของการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วทั้งโลก เราต่างก้าวหน้าผ่านยุคแห่งสังคมข่าวสารมาแล้วซึ่งทำให้ประจักษ์ได้ว่าข่าวสารต่าง ๆ นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และอื่น ๆ ได้นั้น ต้องอาศัยความรู้ในกาจักการ
วัตถุประสงค์หลัก
1.เพื่อสะดวกในการรับข้อมูลข่าวสารและการส่งข้อมูลข่าวสาร

2.ประหยัดเวลาในการติดต่อสื่อสาร

3.มีความรวดเร็วในการรับข้อมูลข่าวสาร

4.การสร้างกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้เหมาะสมกับระดับผู้เรียน

5.การเสริมทักษะและความรู้เพื่อให้ครูสามารถดำเนินการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6.การกำหนดเป้าหมายการศึกษาเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอน
ประวัติอินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร
คอมพิวเตอร์กับการติดต่อสื่อสาร และการค้นหาข้อมูล ความ ก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้นพัฒนาการ ของเทคโนโลยีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ย้อนไปในอดีตโลกมีกำเนิดมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกำเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่าง กันและพัฒนามาเป็นภาษามนุษย์ การเรียนการสอนในระยะนี้จึงมีลักษณะเป็นการเรียนการสอนแบบตัวต่อตัว ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยติดต่อสื่อสารและสืบค้นสารสนเทศ เป็นการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยผู้สอน ผู้เรียน ผู้บริหาร บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้สนใจทั่วไปที่ต้องการศึกษาหาความรู้ แลกเปลี่ยนข่าวสาร ความรู้ การวิจัย ข้อคิดเห็นซึ่งกันและกันทั้งในสถาบันเดียวกัน ต่างสถาบันทั่วโลก โดยการเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย ( Network ) เช่น LAN WAN INTRANET
ลักษณะของอินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร
1.จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)เป็นการรับส่งข้อความที่มีขั้นตอนคล้ายกับการส่งจดหมายทางไปรษณีย์ แต่เป็นระบบอัตโนมัติทางคอมพิวเตอร์ ติดต่อกันได้ทั่วโลก ซึ่งสามารถโต้ตอบกันได้หรือ ทิ้งจดหมายไว้ในเครื่องกรณีผู้ติดต่อด้วยไม่ได้อยู่ที่คอมพิวเตอร์

2.การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อื่นจากระยะทางไกล (Remote Login) ด้วยโปรแกรม Telnet ซึ่งเป็นบริการที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถ Login เข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นที่อยู่ห่างไกลเสมือนเครื่องของตนเอง ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้นโดยผู้ใช้ไม่ต้องเดินทางไปที่เครื่องนั้น

3.บริการค้นหาไฟล์และฐานข้อมูล โดยที่เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีแฟ้มข้อมูลเป็นจำนวนมากการค้นหาข้อมูลที่ต้องการจึงเป็นเรื่องยาก ในปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่มี Search Engine ซึ่งเป็นโปรแกรมช่วยการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ในเว็บไซต์ เช่น Yahoo.com, Google.com เป็นต้น

4.กลุ่มสนทนาและข่าวสาร (News Group) เป็นบริการแบ่งกลุ่มเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทัศนะและแสดงความคิดเห็นในหัวข้อต่าง ๆ

5.การขนถ่ายแฟ้มข้อมูล (File Transfer Protocol: FTP) เป็นบริการที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถขนถ่ายแฟ้มข้อมูลโดยโปรแกรมต่าง ๆ ด้วยการ Download หรือ Upload ไฟล์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการได้โดยสะดวก

6.บริการไฮเปอร์มีเดีย (Hyper-media) ด้วย World Wide Web หรือ WWW. ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้ใช้อินเคอร์เน็ตในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถสื่อสารได้ทั้งข้อความ รูปภาพ กราฟิก ภาพเคลื่อนไหว และเสียง โดยใช้โปรแกรมแสดงผล (Browser) เช่น โปรแกรม Internet Explorer เป็นต้น

7.โปรแกรมสนทนา (Chat) เป็นบริการที่ทำให้ผู้ใช้โปรแกรมสนทนาสามารถพิมพ์ข้อความพูดคุยโต้ตอบในลักษณะทันทีทันใด (Real Time) สามารถสนทนาเป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มย่อย หรือเฉพาะบุคคลได้
วิวัฒนาการการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต
ในปัจจุปันการใช้อินเทอร์เน็ตมีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้น และใช้งานกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจำเป็นที่จะต้องติดต่อสื่อสาร อินเตอร์เน็ตจึงได้รับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการสื่อสารรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้จดหมายอินเล็กทรอนิกส์ การติดต่อด้วยเสียง ระบบ VDO Conference การใช้โทรศัพท์บนเครือข่าย ซึ่งก็มีวิวัฒนาการตามลำดับเบื้องต้นดังนี้

E-mailหรือ จดหมายอิเล็กทรอนิคส์เป็นบริการอย่างหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมาก จนทำให้บางคนคิดว่า E-mail คือ อินเตอร์เน็ต และอินเตอร์เน็ตคือ E-mail วิธีใช้งานอีเมลล์ก็ง่ายและมีประโยชน์มาก การทำงานของ E-mail มีลักษณะคล้ายกับระบบไปรษณีย์ปกติ (หมายถึงระบบที่ใช้กระดาษในการเขียนจดหมาย) กล่าวคือในระบบไปรษณีย์ปกติมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการรับส่งจดหมายคือเป็นบรุษไปรษณีย์ (ในกรณีของประเทศไทยคือ การสื่อสารแห่งประเทศไทย) ถ้าเป็นในอินเตอร์เน็ตสิ่งที่ทำหน้าที่คอยรับส่งจดหมายคือบรรดาคอมพิวเตอร์ทั้งหลายที่ทำหน้าที่เป็น E-mail Server (คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ให้บริการด้านจดหมายอิเล็กทรอนิคส์)

Chatคือ การส่งข้อความสั้นๆ ระหว่างบุคคลที่อยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ในเวลาเดียวกัน และสามารถเขียนโต้ตอบกันไปมาคล้ายกับการคุยกัน ซึ่งก็ได้มีการพัฒนาโปรแกรมสำหรับหาร Chat ออกมามากมายที่เป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือ MSN Messenger
และสิ่งหนึ่งที่มีการพัฒนาต่อมา คือระบบการสื่อสารด้วยเสียงผ่านเครือข่าย IP ที่เรียกว่า เทคโนโลยี Voice over IP หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “VoIP” จนสามารถใช้งานได้ดีขึ้น เพื่อให้ได้รับประโยชน์และมีความสะดวกมากที่สุด VoIP ถูกเริ่มต้นใช้งานกันอย่างกว้างขวาง เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลสามารถสนทนา ระหว่างกัน ได้ รวมถึงการสนทนากับโทรศัพท์พื้นฐานอีกด้วยโดยไม่เสียค่าบริการแต่อย่างได และคุณภาพของบริการก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจนเทียบเท่าระบบ โทรศัพท์พื้นฐาน

ซึ่ง VoIP สามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะคือ
1. คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ไปยัง คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ( PC to PC )
PC มีการติดตั้ง sound card และไมโครโฟน ที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย IP การประยุกต์ใช้ PC และ IP-enabled telephones สามารถสื่อสารกันได้แบบจุดต่อจุด หรือ แบบจุดต่อหลายจุด โดยอาศัย software ทางด้าน IP telephony

2. คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ไปยัง โทรศัพท์พื้นฐาน ( PC to Phone )
เป็นการเชื่อมเครือข่ายโทรศัพท์เข้ากับ เครือข่าย IP ทำให้โดยอาศัย Voice trunks ที่สนับสนุน voice packet ทำให้สามารถใช้ PC ติดต่อกับ โทรศัพท์ระบบปกติได้

3. โทรศัพท์กับโทรศัพท์ ( Telephony )
เป็นการใช้โทรศัพท์ธรรมดา ติดต่อกับโทรศัพท์ธรรมดา แต่ในกรณีนี้จริงๆแล้วประกอบด้วยขั้นตอนการส่งเสียงบนเครือข่าย Packet ประเภทต่างๆซึ่งทั้งหมดติดต่อกันระหว่างชุมสายโทรศัพท์ (PSTN) การติดต่อกับ PSTN หรือ การใช้โทรศัพท์ร่วมกับเครือข่ายข้อมูลจำเป็นต้องใช้ gateway
ประโยชน์อินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร
อินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสารมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนเรา หลายๆ ด้าน ทั้งการศึกษา พาณิชย์ ธุรกรรม วรรณกรรม และอื่นๆที่สามารถทำได้อย่างลวดเร็วประหยัดเวลา และไม่จำกัดระยะทาง ดังนี้

ด้านการศึกษา
1.สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ
2.ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
3.นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอร์เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นต้น
ด้านธุรกิจและการพาณิชย์
1.ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ

2.สามารถซื้อขายสินค้า ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
3.ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรือโปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็นต้น
ด้านการบันเทิง

1.การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine o­nline รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ ที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสาร ตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป
2.สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
3.สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้